เมนู

ปริสวรรคที่ 5



สูตรที่ 1



ว่าด้วยบริษัท 2 จำพวก คือ ตื้น และ ลึก



[287] 41. ดูก่อนภิกษุทั้งหลายบริษัท 2 จำพวกนี้ 2 จำพวก
เป็นไฉน คือ บริษัทตื้น 1 บริษัทลึก 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็บริษัท
ตื้นเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บริษัทใดในธรรมวินัยนี้ มีภิกษุ
ฟุ้งซ่านเชิดตัว มีจิตกวัดแกว่ง ปากกล้า พูดจาอื้อฉาว หลงลืมสติ ไม่มี
สัมปชัญญะ มีจิตไม่ตั้งมั่น คิดจะสึก ไม่สำรวมอินทรีย์ บริษัทเช่นนี้
เรียกว่าบริษัทตื้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็บริษัทลึกเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย บริษัทใดในธรรมวินัยนี้ มีภิกษุไม่ฟุ้งซ่าน ไม่เชิดตัว มีจิต
ไม่กวัดแกว่ง ปากไม่กล้า ไม่พูดจาอื้อฉาว ดำรงสติมั่น มีสัมปชัญญะ
มีใจตั้งมั่น มีจิตเป็นเอกัคคตา สำรวมอินทรีย์ บริษัทเช่นนี้ เรียกว่า
บริษัทลึก ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บริษัท 2 จำพวกนี้แล บรรดาบริษัท 2
จำพวกนี้ บริษัทลึกเป็นเลิศ.
จบสูตรที่ 1

อรรถกถาปริสวรรคที่ 5



อรรถกถาสูรที่ 1



วรรคที่ 5 สูตรที่ 1

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า อุตฺตานา ได้แก่ เปิดเผย ไม่ปกปิด. บทว่า คมฺภีรา
ได้แก่ เร้นลับ ปกปิด. บทว่า อุทฺธตา ได้แก่ ประกอบด้วยความ

ฟุ้งเฟ้อ. บทว่า อุนฺนฬา ได้แก่ ถือดี อธิบายว่า มีมานะเปล่า ๆ ปลี้ ๆ
ที่ตั้งขึ้น. บทว่า จปลา ความว่า ประกอบด้วยความชุกซนมีตกแต่ง
จีวรเป็นต้น. บทว่า มุขรา ได้แก่ ปากจัด วาจาหยาบ. บทว่า
วิกิณฺณวาจา ได้แก่ พูดไม่สำรวม พูดคำที่ไร้ประโยชน์ได้ทั้งวัน . บทว่า
มุฏฺฐสฺสตี ได้แก่ ปล่อยสติ. บทว่า อสมฺปชานา ได้แก่ ไร้ปัญญา.
บทว่า อสมาหิตา ได้แก่ ไม่ได้แม้เพียงความที่จิตมีอารมณ์เดียว. บทว่า
ปากตินฺทฺริยา ความว่า ประกอบด้วยอินทรีย์ที่ตั้งอยู่ตามปกติ เปิดเผย
ไม่รักษา (ไม่สำรวม ). ฝ่ายขาว พึงทราบตรงกันข้ามกับที่กล่าวแล้ว.
จบอรรถกถาสูตรที่ 1

สูตรที่ 2



ว่าด้วยบริษัทที่แยกเป็นพวก และที่สามัคคีกัน



[288] 42. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บริษัท 2 จำพวกนี้ 2 จำพวก
เป็นไฉน คือ บริษัทที่แยกออกเป็นพวก 1 บริษัทที่สามัคคีกัน 1 ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ก็บริษัทที่แยกออกเป็นพวกเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
บริษัทใดในธรรมวินัยนี้ มีภิกษุหมายมั่นทะเลาะวิวาทกัน ต่างเอาหอกคือ
ปากทิ่มแทงกันและกันอยู่ บริษัทเช่นนี้ เรียกว่าบริษัทที่แยกกันเป็นพวก
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็บริษัทที่สามัคคีกันเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
บริษัทใดในธรรมวินัยนี้ มีภิกษุพร้อมเพรียงกัน ชื่นชมกันไม่วิวาทกัน
เป็นเหมือนน้ำนมกับน้ำ ต่างมองดูกันและกันด้วยนัยน์ตาเป็นที่รักอยู่
บริษัทเช่นนี้ เรียกว่าบริษัทที่สามัคคีกัน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บริษัท 2
จำพวกนี้แล บรรดาบริษัท 2 จำพวกนี้ บริษัทที่สามัคคีกันเป็นเลิศ.
จบสูตรที่ 2